news-details
Business

เงินบาท“อ่อนค่าเล็กน้อย”เปิดเช้านี้ 34.04 บาท/ดอลลาร์ รอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ 34.04 บาท/ดอลลาร์ “อ่อนค่าเล็กน้อย” Krungthai GLOBAL MARKETS มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดจะอยู่ที่ 33.90-34.10 บาท/ดอลลาร์ รอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.04 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.99 บาทต่อดอลลาร์

 

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเล็กน้อย ในลักษณะ sideways up (แกว่งตัวในกรอบ 33.98-34.11 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากจังหวะแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ซึ่งในช่วงคืนที่ผ่านมาเงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง หลังบรรยากาศในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ก่อนตลาดรับรู้รายงานผลประกอบการของหุ้นเทคฯ ใหญ่ Nvidia นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ในจังหวะย่อตัวลง หลังทั้งราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบต่างก็มีจังหวะปรับตัวลดลงในช่วงคืนที่ผ่านมา 

 

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานคาดการณ์ครั้งที่ 2 ของอัตราการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาส 2 รวมถึง รายงานข้อมูลยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด

 

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB รวมถึง รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซน อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือนสิงหาคม และอัตราเงินเฟ้อ CPI ของเยอรมนี ในเดือนสิงหาคม 

 

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทอาจผ่านจุดแข็งค่าสุดในระยะสั้นไปแล้ว อย่างไรก็ดี เงินบาทก็อาจยังคงแกว่งตัว sideways แถวโซน 34.00 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยในช่วงระหว่างวันต้องจับตาว่า ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียจะตอบรับกับผลประกอบการของ Nvidia ในช่วงคืนที่ผ่านมาอย่างไร เพราะหากบรรยากาศในตลาดการเงินฝั่งเอเชีย เผชิญแรงกดดันจากแรงขายหุ้นธีม AI/Semiconductor เหมือนในฝั่งสหรัฐฯ ก็อาจส่งผลกระทบต่อบรรดาสกุลเงินฝั่งเอเชียได้เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้เงินหยวนจีน (CNY) มีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง อย่างไรก็ดี ในฝั่งตลาดการเงินไทย ก็อาจได้รับผลกระทบจากภาพดังกล่าวไม่มากนัก เนื่องจาก หุ้นธีม AI/Semiconductor มีสัดส่วนไม่มาก ในตลาดหุ้นไทย 

 

อนึ่ง แม้ว่าเงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าบ้าง แต่เราคงมองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัด จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งอาจต้องรอลุ้นรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า ทำให้เงินบาทอาจติดอยู่แถวโซนแนวต้านแรก 34.05-34.10 บาทต่อดอลลาร์ และจะมีโซนแนวต้านถัดไปแถว 34.20 ขณะที่โซนแนวรับของเงินบาทดูจะอยู่ในช่วง 33.90 บาทต่อดอลลาร์ และมีแนวรับถัดไปแถว 33.75-33.80 บาทต่อดอลลาร์

 

เรายังคงมองว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด หรือ การปรับสถานะถือครองเงินดอลลาร์ ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

 

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.90-3

4.10 บาท/ดอลลาร์ 

You can share this post!