news-details
Business

เงินบาท "แข็งค่าขึ้น”เปิดเช้านี้ 35.10 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 35.10 บาท/ดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” กรุงไทย คาด สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในระดับ 34.85-35.65 บาท/ดอลลาร์ ระวังการปรับมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของเฟดและ BOE และพฃเตรียมรับมือความผันผวนจากปัญหาการเมืองฝรั่งเศส-การเมืองไทย รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง

 

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.29 บาทต่อดอลลาร์ (ระดับปิด ณ วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม)

 

 

โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาและช่วงวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันหยุดทำการของตลาดการเงินไทย เงินบาทได้แกว่งตัวเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideways ก่อนที่จะทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลุดโซนแนวรับระยะสั้นแถว 35.15-35.20 บาทต่อดอลลาร์ที่เราได้ประเมินไว้ (แกว่งตัวในกรอบ 35.08-35.31 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่า ตามโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำ (XAUUSD) ทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เข้าใกล้โซนแนวต้านระยะสั้นแถว 2,470-2,480 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ เงินบาทยังได้แรงหนุนเพิ่มเติม จากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังผลสำรวจคาดการณ์ของผู้บริโภคโดยเฟดสาขานิวยอร์ก (NY Fed’s Survey of Consumer Expectations) สะท้อนว่า ผู้บริโภคประเมินคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะกลาง (3 ปี) ลดลงมากขึ้นสู่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.8% ในผลสำรวจเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ คาดการณ์การผิดนัดชำระหนี้ (Delinquency Expectations) ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน สะท้อนจากความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ขั้นต่ำในอีก 3 เดือนข้างหน้า ที่เพิ่มสูงขึ้น แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 ในช่วงวิกฤต COVID-19 

 

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์รีบาวด์ขึ้น หลังผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด

 

สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า ควรระวังการปรับมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของเฟดและ BOE จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ และอังกฤษ พร้อมเตรียมรับมือความผันผวนจากปัญหาการเมืองฝรั่งเศสและการเมืองไทย รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง

 

 

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โอกาสผันผวนอ่อนค่าของเงินบาทยังคงมีอยู่ โดยการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมานั้น ก็ได้แรงหนุนจากทั้งฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติและโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำพอสมควร ทำให้ ต้องจับตาประเด็นการเมืองในประเทศที่อาจกระทบต่อทิศทางของฟันด์โฟลว์ พร้อมติดตามแนวโน้มราคาทองคำ

 

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์ยังมีโอกาสแข็งค่าขึ้น หาก 1) ผู้เล่นในตลาดลดความคาดหวังต่อการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด ตามภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ไม่ได้ชะลอตัวลงหนัก 2) ตลาดการเงินเผชิญภาวะปิดรับความเสี่ยงจากปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง 3) สกุลเงินหลักฝั่งยุโรป ทั้งเงินยูโร (EUR) และเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) อ่อนค่าลง จากความกังวลปัญหาการเมืองฝรั่งเศสและแนวโน้ม BOE อาจเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม

 

เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward 

 

มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.85-35.65 บาท/ดอลลาร์

 

ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.00-3

5.25 บาท/ดอลลาร์

You can share this post!