ตลาดทองคำเมืองไทย มีมูลค่ารวมต่อปีมากกว่า 4 ล้านล้านบาท ซึ่งมียักษ์ใหญ่ 3 เจ้าครองส่วนแบ่งตลาดปีละประมาณ 60% คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาท หนึ่งใน TOP 3 ดังกล่าว มีชื่อของ “ห้างทองแม่ทองสุก” ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้ปีละกว่า 9 แสนล้าน/ปี และมีเงินหมุนเวียนต่อวันกว่า 600 ล้านบาท
ทีมข่าว “Full Max News” มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์พิเศษผู้บริหารหนุ่มไฟแรง “เอ็ม - กีรดิต หิรัณยศิริ” ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด ทายาทรุ่น 3 (Generation 3) “ห้างทองแม่ทองสุก” หนึ่งใน 3 พี่น้องที่จะนำพาห้างทองฯ เข้าสู่ตลาดหลังทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าทองคำครบวงจรในเมืองไทย
ก่อนมาเป็น “ห้างทองแม่ทองสุก”
“กีรดิต” เปิดเผยว่า ธุรกิจค้าทองแจ้งเกิดในยุค “อาม่า - แม่ทองสุก” ซึ่งเป็นเจ้าแรกในไทยที่ขายปลีกทองคำ และก็มีขายส่งด้วย ระยะเวลาผ่านมาก็ก้าวเข้าสู่ Gen 2 ก็คือ “คุณพ่อ - นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ” ซึ่งถือเป็นยุคเปลี่ยนแปลงธุรกิจร้านทองของครอบครัว (ร้านทอง “โง้วย่งฮง” กับ “ยู ฮอง”) ที่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2495 จนกลายเป็น “ห้างทองแม่ทองสุก” และขยับมาเป็นผู้ค้าทองคำรายใหญ่ของประเทศอย่างวันนี้ ปัจจุบันเข้าสู่ Gen 3 ซึ่งมี “พี่ชาย - “ณัฐพงศ์, ผม - กีรดิต และ น้องสาว - ดลพร” เพื่อสานต่อธุรกิจครอบครัวสู่ยุคใหม่
TOP 1 ธุรกิจค้าทองคำครบวงจร
ปัจจุบัน “ห้างทองแม่ทองสุก” ถือได้ว่าเป็นเบอร์ 1 ในเมืองไทยที่ทำธุรกิจค้าทองคำครบวงจร โดยมีตั้งแต่ธุรกรรมขายปลีก ขายส่ง โรงงานผลิตทองคำ โรงงานสกัดทองคำ โบรกเกอร์ลงทุนทองคำ รวมทั้งเป็นผู้นำเข้าส่งออกทองคำรายใหญ่ของประเทศ
TOP 3 ผู้ครองส่วนแบ่งตลาดทองคำ
เมื่อพูดถึงมูลค่าตลาดรวมทองคำในเมืองไทย มีสูงถึง 4 ล้านล้านบาท โดยมีเจ้าตลาด 3 ราย ครองส่วนแบ่งฯ กว่า 60% คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และอื่นๆ 40% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 ล้านล้านบาท/ปี ซึ่ง “ห้างทองแม่ทองสุก” ติด TOP 3 มาโดยตลอด
ทุนหมุนเวียนซื้อ - ขายทองคำ 600 ล้าน/วัน
การดำเนินธุรกิจค้าทองคำ จำเป็นต้องมีทุนหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก เพราะมีการซื้อ - ขาย กันตลอดทั้งวัน ยิ่งเป็นช่วงที่ราคาทองคำขึ้นจะมีการต่อแถวซื้อ - ขาย กันอย่างคึกคัก เช่นเดียวกับ “ห้างทองแม่ทองสุก” จะมีทุนหมุนเวียนวันละ 600 ล้านบาท ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้เป็นอย่างดี
ปักธงปีมังกร รายได้ทะลุ 1 ล้านล้านบาท
รายได้ปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้ประมาณ 8.5 แสนล้านบาท เติบโตกว่าปีก่อนประมาณ 20% และในปี 2567 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ประมาณ 1 ล้านล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20%
คาดราคาทองคำปรับตัวทะลุ 5 หมื่นบาท
ปัจจุบัน “ทองคำ” มีปัจจัยเชิงบวกในหลายๆ ด้าน ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากช่วงปลายปี 2566 ผ่านมาปี 2567 ประมาณ 5 - 6 เดือน ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นแล้วประมาณ 20% ซึ่งมีการรายงานข่าวราคานิวไฮอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับนักวิเคราะห์ออกมาแจ้งข่าวว่าราคาทองคำมีแนวโน้มทะลุ 5 หมื่นบาทในปีนี้ ตรงนี้อาจเป็นไปได้ แต่อยากให้ผู้เก็งกำไรติดตามข่าวสารและมีการศึกษาให้ดีก่อนลงทุน
แนะ “ออมทอง” เก็งกำไรสินทรัพย์ที่มั่นคง
การออมทอง คือ การทยอยสะสมเงินเพื่อซื้อทองคำแท่งที่บริสุทธิ์ 96.5% โดยการทยอยซื้อแบบถัวเฉลี่ยสะสม เน้นไปที่จำนวนเงินลงทุนเป็นหลัก ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อสะสมได้เป็นแบบรายวัน เมื่อครบตามจำนวนก็สามารถที่จะไปแลกทองคำตามน้ำหนักที่เราต้องการในรูปแบบทองคำแท่ง โดยปัจจุบันสามารถเริ่มต้นออมทองขั้นต่ำได้แล้วในราคาหลัก 100 บาท ซึ่งการออมทอง เหมาะสำหรับคนมีงบน้อยที่ต้องการสะสมทองคำ หรือผู้ที่ไม่รู้ว่าควรจะเข้าซื้อทองคำช่วงไหน จากความกังวลด้านการแกว่งตัวขึ้นและลงของราคานั่นเอง โดยบริษัทฯ มี Blockchain ออมทอง ชื่อว่า MTS Gold Blockchain (MGB) คือ ระบบออมทองภายใต้การดำเนินการของบริษัทในเครือ เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ซึ่งเป็นการออมทองในรูปแบบออนไลน์ด้วยนวัตกรรม Blockchain ที่จะมาช่วยควบคุมให้เกิดความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุนว่าจะไม่มีความเสียหายด้านข้อมูล ทองคำ และการทำธุรกรรม ทำให้การออมทองนั้นง่ายยิ่งขึ้น สะสมด้วยน้ำหนักขั้นต่ำ 0.1 กรัม หรือเริ่มต้นในราคาประมาณ 100 บาท สามารถ Transfer หรือโอนมอบทองคำในระบบให้กับสมาชิกท่านอื่นๆ ที่อยู่ระบบเดียวกับเราได้ พร้อมแลกรับทองคำได้จริงที่ "ห้างทองแม่ทองสุก" ทั้ง 8 สาขา
วางเป้าเข้าระดมทุนในตลาดฯ ปี 70
บริษัทฯ วางเป้าหมายไว้ว่า จะนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านการลงทุนในทองคำ เป็นศูนย์กลาง (ฮับ) การลงทุนทองคำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น จึงเตรียมนำบริษัทฯ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปี 2570 เพื่อนำเม็ดเงินมาสร้างโรงงานและขยายสาขา รวมทั้งการดึงมืออาชีพเข้ามาร่วมงานกับองค์กร ทั้งนี้ ยังมีแผนขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทั้งอาเซียนด้วย นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะโรดโชว์ในเวทีต่างประเทศ เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติรู้จัก “ห้างทองแม่ทองสุก” ว่า เป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือ น่าร่วมงาน น่าลงทุน ที่สำคัญอยากให้ธุรกิจสืบทอดต่อไปอย่างยั่งยืน