ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBank รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 13,791 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจโลกและไทยที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่ยังคงบริหารธุรกิจอย่างรอบคอบ ยึดแนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้ยุทธศาสตร์ 3+1
เศรษฐกิจไทยโตจำกัด - ภัยธรรมชาติ-นโยบายสหรัฐกดดัน
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปี 2568 เติบโตในกรอบจำกัด แม้การส่งออกจะฟื้นตัวจากแรงเร่งก่อนมาตรการภาษีของสหรัฐฯ แต่ยังมีปัจจัยลบจากเหตุแผ่นดินไหว การขึ้นภาษีตอบโต้ทางการค้า และภาระหนี้ครัวเรือนที่กดดันการใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวต่ำกว่าปีก่อน
รายได้ดอกเบี้ยลด – NIM อยู่ที่ 3.41% – ตั้งสำรองตามความเสี่ยง
ผลประกอบการในไตรมาส 1/68 ระบุว่า:
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 35,452 ล้านบาท ลดลง 7.23% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
- รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 15.39% จากรายได้ค่าธรรมเนียม กำไรจากการลงทุน และเครื่องมือทางการเงิน
- รายได้จากการดำเนินงานสุทธิลดลง 1.87%
- ธนาคารตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่ 9,818 ล้านบาท สะท้อนความระมัดระวังจากความเสี่ยงเศรษฐกิจในอนาคต
ค่าใช้จ่ายควบคุมได้ดี – Cost to Income อยู่ที่ 40.84%
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่น ๆ อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า จากการจัดการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost to Income) คงที่ในระดับที่ดี
สินทรัพย์รวมกว่า 4.35 ล้านล้านบาท – NPL อยู่ที่ 3.19%
ณ สิ้นไตรมาส 1 ธนาคารมี:
- สินทรัพย์รวม 4,355,212 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.33%
- NPL อยู่ที่ 3.19%
- Coverage ratio เพิ่มเป็น 159.49%
- อัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 20.52% ยังแข็งแกร่งตามเกณฑ์ Basel III
เดินหน้าตามมาตรฐานสากล – พร้อมรายงานการเงินโปร่งใส
ธนาคารได้ปรับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับใหม่ (TFRS 17) กับบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจประกันภัย เพื่อสะท้อนภาพการเงินที่ชัดเจนและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น
“แม้ภาวะเศรษฐกิจจะยังมีความไม่แน่นอนสูง แต่ธนาคารกสิกรไทยยังคงยึดหลักดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมดูแลลูกค้า นักลงทุน และผู้ถือหุ้นอย่างรอบด้าน ภายใต้เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน” นางสาวขัตติยากล่าว